วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2550

มอร์นิ่งกลอรี่

ชื่อวิทยาศาสตร์ Ipomoea Rorsfalliae. (L.) Roth.
ตระกูล CONVOLVULACEAE
ชื่อสามัญ Deep rose. morning glory.
ลักษณะทั่วไป
ต้น เป็นไม้เถาเลื้อยฤดูเดียว เถามีขนาดเล็ก ตามเถามีขนขึ้นปก คลุมจนทั่ว โดยเฉพาะบริเวณปลายยอดใบ เป็นไม้ใบเดี่ยว ใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมนเว้าเข้าหาก้านใบทั้ง 2 ข้าง หรือใบเป็นรูปหัวใจดอก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวหรืออาจจะออกเป็นกลุ่ม ๆ หนึ่ง ๆ จะมีประมาณ 5 ดอก รูปทรงของดอกจะคล้ายกับแตร หรือคล้ายดอกผักบุ้ง มีขนาดเล็กและมีความยาวประมาณ 3 นิ้ว ดอกมีสีต่าง ๆ กัน เช่น สีม่วงอมน้ำเงิน หรือ สีม่วงปนขาว สีขาว สีแดง สีฟ้า สีชมพู
ฤดูกาลออกดอก ออกดอกตลอดปี
สภาพการปลูก
มอร์นิ่งกลอรี่เหมาะที่ปลูกริมรั้ว หรือปลูกเป็นซุ้มประตู เพื่อให้เถาได้เลื้อยพาดไปตามริมรั้ว หรือตามซุ้มประตูได้ การปลูกให้นำกิ่งที่ได้จากการปักชำหรือต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด มาปลูกลงดิน โดยขุดหลุมปลูกให้มีความกว้างลึกประมาณ 1x1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ประมาณ 1/4 ของหลุม กลบดินเล็กน้อย แล้ววางต้นกล้าลงกลางหลุม กลบดินพอแน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

ลีลาวดี

ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumeria spp.
ตระกูล Apocynaceae

ชื่อสามัญ Frangipani,Pagoda,Temple
ถิ่นกำเนิด เม็กซิโกใต้ถึงตอนเหนือทวีปอเมริกาใต้


ลักษณะทั่วไป
ลีลาวดี เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดจากที่เป็นพุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ0.6 เมตร จนถึงต้นใหญ่มากอาจที่สูงได้ถึง 12 เมตร ลำต้นแผ่กิ่งก้านสาขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางขนสีขาวเป็นพันธุ์ไม้ที่สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิดอกผลิใบรุ่นใหม่ชนิดและพันธุ์ที่มีลักษณะดี ต้องมีทรงพุ่มแน่น มีกิ่งก้านสาขามาก ใบดกที่ปลายกิ่ง มีช่อดอกใหญ่ กิ่งที่ยังไม่แก่มีสีเขียวอ่อนนุ่ม กิ่งที่แก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ ใบ เป็นใบเดี่ยวมีการเรียงตัวสลับกันและหนาแน่นใกล้ๆปลายกิ่ง มีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกต่างกันตั้งแต่ 5-20 นิ้ว ช่อดอก จะถูกผลิตออกมาจากปลายยอดเหนือใบแต่ก็มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบหรือออกดอกใต้ใบ ช่อดอกบางชนิดตั้งขึ้น บางชนิดห้อยลง ใน 1 ช่อดอกจะมีดอกบานพร้อมกัน 20-30 ดอก บางต้นสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า 100 ดอก ต่อ 1 ช่อ ดอกโดยทั่วไป กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่ลึกเข้าไปข้างใน ดอกของ ลีลาวดีมีสีสันหลากหลาย ทั้ง ขาว แดง เหลือง ชมพู ส้ม ม่วง สีทอง มีกลิ่นหอมต่างๆกันไปในแต่ละชนิด ดอกมีขนาด 2 - 6 นิ้ว มีกลิ่นหอม ผล เป็นฝักคู่ รูปยาวรี กว้างประมาณ 1.5 - 15 ซม. เมื่อแก่แตกเป็น 2ซีก เมล็ดมีจำนวนมาก เมล็ดแบนมีปีก ลีลาวดีมีช่วงชีวิตที่ยาวนานนับ 100 ปี
ฤดูกาลออกดอก
ออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์-เมษายน บางพันธุ์ออกดอกตลอดปี เช่น ขาวพวง
การปลูกและดูแลรักษา
การปลูกในกระถางลีลาวดีจะตอบสนองต่อวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี มีอินทรีวัตถุและได้รับปุ๋ยเสริมตามความเหมาะสม สัดส่วนที่ปลูกนกระถางโดยทั่วไป 50% มูลวัวที่ย่อยสลายดีแล้ว 25% ใบไม้ผุ 25% ดิน การให้น้ำ ใส่น้ำให้ดินในกระถางให้เปียกทั่วถึง จนน้ำส่วนเกินระบายออกทางรูระบายน้ำ แล้วปล่อยให้วัสดุปลูกแห้งก่อนให้น้ำครั้งต่อไปซึ่งอาจจะเป็นอาทิตย์ละ2ครั้ง หรือถ้าช่วงแล้งจัดๆ อาจเป็นวันเว้นวัน อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความชื้นวัสดุปลูกอย่างสม่ำเสมอ แต่วัสดุปลูกที่มีขนาดเล็กละเอียด เมื่อถึงระยะหนึ่งจะอัดตัวแน่นและรากจะไม่สามารถเจริญผ่านจุดนี้ไปได้น้ำก็จะขังไม่สามารถระบายน้ำได้ในที่สุดจะทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าได้การปลูกลงดินในแปลงปลูกดินควรเป็นดินร่วนปนทราย ส่วนดินเหนียวหรือดินที่มีเนื้อดินละเอียดหนักซึ่งน้ำขังง่ายไม่เหมาะที่จะใช้ในการปลูก ดินควรมีปริมาณอินทรียวัตถุที่เหมาะสม สามารถดูดยึดความชื้นได้ดี ในขณะเดียวกันต้องมีการระบายน้ำได้ดี การให้น้ำ ในการปลูกลงดินให้น้ำแต่น้อยให้ปริมาณสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นอากาศด้วย ถ้าอากาศร้อนแห้งแล้ง ก็ต้องให้น้ำบ่อยกว่าปกติเพื่อรักษาความเขียวของใบ แต่ให้น้ำมากเกินไปก็จะมีการเจริญเติบโตทางกิ่งก้านมากและทำให้ไม่ออกดอก



วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ทุ่งกระเจียวบาน

เทศกาลและประเพณี
งานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-20 มกราคมของทุกปี ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดและสี่แยกอนุสาวรีย์เจ้าพ่อ ขบวนถวายช้างแด่เจ้าพ่อ ขบวนแห่ของอำเภอต่างๆ การออกร้าน จัดนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ และการประกวดผลิตผลทางการเกษตร ตรงนี้รอรูปจากคุณไงครับ
งานแห่เทียนพรรษา
เป็นงานที่เทศบาลเมืองชัยภูมิจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี มีการประกวดเทียนพรรษาที่ประดิดประดอยอย่างวิจิตรงดงาม
การเดินทาง : ข้อมูลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ทางรถยนต์ :)
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิตวังน้อย จนถึงสามแยกจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 201 ที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทางประมาณ 342 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ-ขอนแก่น) ผ่านตำบลจอหอ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่านอำเภอโนนไทย ตรงไปจนถึงสี่แยกตำบลหนองบัวโคก อำเภอจัตุรัส เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทาง 119 กิโลเมตร
ทางรถโดยสารประจำทาง :) บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-ชัยภูมิ ทุกวัน ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ สถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 โทร. 936-2852-66
ทางรถไฟ :) จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) มีรถด่วน รถเร็ว กรุงเทพฯ-หนองคาย บริการทุกวัน โดยลงที่สถานีบัวใหญ่ จากนั้นสามารถต่อรถโดยสารประจำทางที่สถานีเดินรถไปอีก 51 กิโลเมตร รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ แผนกบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020
ทางเครื่องบิน :) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีบริการเที่ยวบินไปจังหวัดชัยภูมิ หากประสงค์จะเดินทางไป โดยเครื่องบิน จะต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้นสามารถต่อรถโดยสารจากจังหวัดขอนแก่นย้อนกลับเข้าชัยภูมิ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร หรือจะลงที่จังหวัดนครราชสีมา แล้วต่อรถโดยสารเข้าจังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 119 กิโลเมตร รายละเอียดติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
โทร. 280-0060, 628-2000

หลักการเขียนโครงการ

หลักการเขียนโครงการ
องค์ประกอบของการจัดทําโครงการประจําปี 2548 ขอให้ผู้รับผิดชอบแผนงาน/โครงการที่จะดําเนินการใน ปี 2548 เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ ตามรายละเอียด

1.หลักการและเหตุผล
- ความสอดคล้องกับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์
- ปัญหา ความจําเป็นที่ต้องทํา
- ปํญหาอุปสรรคที่คาดกว่าจะเกิดขึ้นหากไม่ได้ดําเนินโครงการ
2.วัตถุประสงค์
2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป
2.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ (การตั้งเป้าหมายผลลัพท์การดําเนินงานตามตัวชี้วัด)
3.กลวิธีการดําเนินงาน
4.เป้าหมายดําเนินการ
5.สถานที่จะดําเนินการ
6.ระยะเวลาดําเนินการ
7.งบประมาณ
- แหล่งงบประมาณให้ระบุแหล่งงบประมาณให้ชัดเจน, กรม…,รหัสงบประมาณ….วงเงินงบประมาณให้จําแนกรายละเอียดตามหมวดค่าใช้จ่าย หมวด…..,ค่าตอบแทนวิทยากร , ค่าใช้สอย, ค่าอาหารกลางวัน,ค่าอาหารว่าง,ค่าวัสดุ ขอให้แยกให้ชัดเจน ส่วนแผนและผังการดําเนินงาน ให้สรุปการใช้จ่ายเป็นรายไตรมาส
- วงเงินงบประมาณ : จําแนกตามหมวดค่าใช้จ่ายและตามมาตรฐานราคากลาง ที่กําหนด
8.แนวทางการติดตามประเมินผล
9.ผลที่คาดว่าจะได้รับ

10.แผนและผังควบคุมกํากับการดําเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณ
- ทุกกลุ่มงานต้องจัดทําโครงการทั้งปีให้เสร็จภายในสิ้นเดือน 31 ธันวาคม 2548 ยกเว้นโครงการที่ มีนโยบายเพิ่มใหม่
- โครงการที่ขอใช้งบกลางที่ขออนุมัติให้เสนอผ่านกลุ่มงานยุทธศาสตร์ ส่วนโครงการที่ใช้งบกรม,กองหรืองบอื่น ๆ เมื่อได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้วให้ เสนอผ่านฝ่าย/กลุ่มงานเจ้าของงบประมาณ
- โครงการที่ขออนุมัติใช้เงินบํารุงของสถานบริการจาก นพ.สาธารณสุขจังหวัด ที่ผ่านกลุ่ม
- การส่งคืนเงินยืมให้ส่งใช้คืนภายใน 15 วันภายหลังรับเงินยืม ถ้าไม่คืนภายในกําหนดให้หักจากเงินเดือน
แนวทางในการเขียนรายละเอียดเชิงการเงิน
1) ค่าใช้จ่ายต่อไปนี้ให้เป็นไปตามที่กําหนด
1. ค่าอาหาร

- จัด ณ สถานที่ที่ไม่ใช้โรงแรม ไม่เกินมื้อละ 100 บาท
- จัดในโรงแรม ไม่เกินมื้อละ 200 บาท
2. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม
- จัด ณ สถานที่ที่ไม่ใช่โรงแรม ไม่เกินมื้อละ 25 บาท
- จัดในโรงแรม ไม่เกินมื้อละ 50 บาท
3. ค่าตอบแทนวิทยากร
- ในสังกัด สสจ.แพร่ ชั่วโมงละ 300 บาท
- นอกสังกัด สสจ.แพร่ ชั่วโมงละ 600 บาท
- ภาคเอกชน ชั่วโมงละ 1,200 บาท
กรณีที่หน่วยงานภายนอกเชิญวิทยากรของ สสจ.ให้หน่วยงานที่เป็นผู้ขอวิทยากรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าตอบแทนวิทยากร
4. ค่าจ้างเหมารถเอกชน
- รถตู ในจังหวัด ไมเกินวันละ 1,200 บาท (ไมรวมค่าน้ำมัน)
- รถตู นอกจังหวัด ไมเกินวันละ 1,500 บาท (ไมรวมค่าน้ำมัน)
- รถบัส ไมเกินวันละ 12,000บาท(รวมคาน้ำมัน) การคิดจํานวนวันในการจางเหมารถขึ้นอยูกับระยะทาง และเวลาและความยากง่ายสถานที่ที่ไป
5. กรณีใชยานพานะส่วนบุคคล
(ใชระเบียบกระทรวงการคลังวาด้วยการใชยานพาหนะสวนตัวเดินทางไปราชการ(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2547 ให้เบิกเงินชดเชยใหแกผูเดินทางไปราชการ ซึ่งเป็นเจ้าของหรือผูครอบครอง แล้วแต่กรณีไดในอัตราต่อ 1 คัน ดังนี้
รถยนตส่วนบุคคล กม.ละ 2 บาท
รถจักรยานยนต กม.ละ 1 บาท
6.ค่าพัสดุในการประชุม
ไมเกินคนละ 50 บาท
(ถ้าเกินกว่านั้นต้องระบุสาเหตุที่ทําใหราคาเกินกว่าค่าที่กําหนด)
7. ค่าจ้างจัดทํารูปเล่มเอกสาร
7.1 ค่าจ้างถ่ายเอกสารแผ่นละไมเกิน 50 สตางค 7.2 เข้าเล่ม + แลคซีน ไม่เกินเล่มละ 10 บาท
7.3 ทําปก + สันปก + เข้าเล่ม รวมสันห่วง เล่มละ 25 บาท
7.4 เอกสาร 100 หน้าไม่เกิน 80 บาท (ใช้ในกรณีพิเศษ)
(ถ้าเกินกว่านั้นต้องระบุสาเหตุที่ทําใหราคาเกินกว่าค่าที่กําหนด)
8. ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ใหงดตั้งงบประมาณเบิกจ่าย ยกเว้นมีความจําเป็นจริง ๆ ใหเขียนชี้แจงเหตุผล และระบุมาใหชัดเจน
- เสื้อ
- ค่าวิเคราะหข้อมูล (ใหเบิกจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ )
9. ค่าใชจ่ายที่งดไม่ใหเบิก
- ค่ากระเป๋าเอกสาร
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมของส่วนราชการสําหรับบุคคลภายนอก (อสม.,ผูนําศาสนา,กรรมการหมู่บ้าน)
1. ค่าอาหาร
กรณีจัดฝึกอบรมในสถานที่ของทางราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
- จัดอาหารครบทุกมื้อไมเกินคนละ 150 บาท/วัน
- ไม่ครบทุกมื้อไมเกินคนละ 75 บาท/วัน
* กรณีจัดฝึกอบรมในสถานที่ของเอกชน*
- จัดอาหารครบทุกมื้อไมเกินคนละ 250 บาท/วัน
- ไม่ครบทุกมื้อไมเกินคนละ 125 บาท/วัน
กรณีที่ส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรมไม่จัดอาหาร ที่พักและหรือยานพาหนะใหเบิกค่าใช้จ่ายให้แก่ผูเข้ารับการฝึกอบรมที่ เป็นบุคคลภายนอก ในส่วนที่มิไดจัดใหดังนี้
1.ไม่จัดอาหารทั้ง 3 มื้อ ใหเบิกจ่ายค่าอาหารได้ไมเกินคนละวันละ 100 บาท
2. จัดอาหารไมครบทุกมื้อ ใหเบิกจ่ายค่าอาหาร ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่าอาหารตามข้อ 1
ค่าที่พักเบิกไดเท่าที่จ่ายจริงไมเกินคนละ 300 บาท/คืน
ค่ายานพาหนะ
- ใหเบิกจ่ายไดโดยอนุโลมตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชเทียบเท่ากับข้าราชการระดับ 1
อัตราค่ารถยนตโดยสารประจําทางในจังหวัดแพร
จาก - ถึง
รถประจําทาง / คน / เที่ยว
หมายเหตุ
อ.เมืองแพร - อ.เด่นชัย
อ.เมืองแพร - อ.สอง
อ.เมืองแพร-อ. สูงเม่น
อ.เมืองแพร- อ.ร้องกวาง
อ.เมืองแพร- ลอง
อ.เมืองแพร- วังชิ้น
อ.เมืองแพร - อ.หนองม่วงไข
อ.เมืองแพร สส.จ.

หมายเหตุ ตาม พรก. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 มาตรา 22
- การเดินทางไปราชการโดยปกติใหใชยานพาหนะประจําทางและใหเบิกค่าพาหนะไดโดยประหยัด
- ในกรณีที่ไมมียานพาหนะประจําทางหรือมีแตต้องการความรวดเร็วเพื่อประโยชนแกทางราชการใหใชพาหนะอื่นได้ แต่ผู้เดินทางจะต้องชี้แจงเหตุผลและความจําเป็นไวในรายงานการเดินทางหรือหลักฐานการขอเบิกเงินค่าพาหนะนั้น
- ผู้ดํารงตําแหน่งระดับระดับ 6 ขึ้นไปหรือเทียบเท่า ใหเบิกค่าพาหนะรับจ้างไดสําหรับกรณีดังนี้
(1) การเดินทางไปกลับระหวางสถานที่พัก กับสถานียานพาหนะประจําทาง ในจังหวัดเดียวกันถ้าการเดินทางดังกล่าวตาม (1) ต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัดใหเบิกค่าพาหนะรับจ้างได
เท่าที่จ่ายจริง แตต้องไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลังกําหนด
(2) การเดินทางไปกลับระหว่างสถานที่อยู ที่พัก กับสถานที่ปฏิบัติราชการภายในเขตจังหวัดเดียวกันวันละไมเกินสองเที่ยว
(3) การเดินทางไปราชการในเขตกรุงเทพฯ
ผูซึ่งไมมีสิทธิเบิกคาพาหนะตามวรรคสาม ถาตองนําสัมภาระในการเดินทางหรือสิ่งของเครื่องใชของทางราชการไปด้วย และเป็นเหตุใหไม่สะดวกที่จะเดินทางโดยยานพาหนะประจําทาง ให้เบิกค่าพาหนะรับจ้างได

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2550



ดีใจจังสมัครได้แล้ว...fiower